ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สุดทน หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ชี้ ผิดจรรยาบัน

เมื่อวันที่ 18 ก.พ. มีรายงานว่า ในสังคมออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง ชื่อว่า ‘ฅนเมืองเหนือ’ ใช้ถ้อยคำการพาดหัวข่าวข่มขืนเด็กหญิงรายหนึ่ง ด้วยถ้อยคำรุนแรง จนคนในสังคมออกมาประณามการทำหน้าที่ของสื่อ และเรียกร้องให้สภาหนังสือพิมพ์แห่งชาติดำเนินการลงโทษ เพื่อให้เป็นแบบอย่าง และตระหนักถึงจริยธรรมของการนำเสนอข่าวมากยิ่งขึ้น

นายจักร์กฤษ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผย ถึงกรณีดังกล่าว ว่า พฤติกรรมที่หนังสือพิมพ์ ฅนเมืองเหนือได้ทำนั้น เข้าข่ายผิดจริยธรรมสื่ออย่างชัดเจน ถือเป็นการล่วงละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ที่ตกเป็นข่าว โดยนอกจากจะไม่ให้ความคุ้มครองต่อสิทธิมนุษยชนของเด็กแล้ว ยังซ้ำเติมความทุกข์ของเด็กและครอบครัวด้วย อีกทั้งยังผิดกฎหมาย เรื่องของการแสดงภาพ หรือข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็ก หรือผู้ปกครอง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546  มาตรา 27 ที่ห้ามโฆษณา หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็ก โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง หรือเกียรติคุณ หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตัวเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ

มาตรา 50 ห้ามมิให้ผู้ปกครองสวัสดิภาพ หรือผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เปิดเผยชื่อตัว ชื่อสกุล ภาพ หรือข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับตัวเด็ก ผู้ปกครอง ในลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งของเด็ก หรือผู้ปกครอง บทบัญญัติในวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาและผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 24 ซึ่งได้ล่วงรู้ข้อมูลดังกล่าว เนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วย โดยอนุโลม ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณา หรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชน หรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลที่เปิดเผยโดยฝ่าฝืนบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง

มาตรา 79 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 27 มาตรา 50 หรือมาตรา 61 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

นายจักร์กฤษ กล่าวว่า วันนี้จะทำหนังสือถึงผู้ที่จัดทำหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ และพัฒนาสังคมจังหวัด รวมถึงทนายความจังหวัดลำปาง รวมถึงจะรีบดำเนินการให้แสดงความรับผิดชอบ ถ้าไม่แสดงความรับผิดชอบ ก็คงจะต้องพยายามที่จะให้ผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

“ทางสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ไม่ได้มีอำนาจในการลงโทษ เพราะไม่ได้เป็นองค์กรตามกฎหมาย นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ ฅนเมืองเหนือ ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ แต่สิ่งที่จะทำคือ การใช้มาตรการทางสังคม ชี้ให้เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการผิดจริยธรรมสื่ออย่างชัดเจน สมาคมผู้สื่อข่าว จ.ลำปาง ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการแถลงการณ์ หรือประณามการกระทำผิดจริยธรรมของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ และผู้ปกครองเด็ก ควรใช้สิทธิตามกฏหมายในการแจ้งความดำเนินคดี หรือยื่นคำขอให้สภาทนายความประจำจังหวัดลำปาง เป็นทนาย หรือตัวแทนในการดำเนินคดี ส่วนเรื่องอื่นๆ คงเป็นระยะยาว ต้องไปดูเรื่องขององค์กรกำกับสื่อที่จะผลักดันเสนอ สปช. สร้างกลไกกำกับสื่อที่มีประสิทธิภาพให้มีสภาพบังคับทางกฎหมาย และสนับสนุนองค์กรผู้บริโภคสื่อ ในการคุ้มครองผู้ถูกละเมิด” ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าว

สำหรับในอนาคตจะมีการออกกฎหมายตั้งองค์กรมาควบคุมสื่อด้วยหรือไม่นั้น นายจักร์กฤษ ระบุว่า มันเป็นรายละเอียดที่ต้องใช้เวลา และจำเป็นจะต้องมีมาตรการทางกฎหมายเข้ามาเสริมมาตรการทางสังคมที่ใช้มา 10 กว่าปี แต่รายละเอียดที่จะเพิ่มกฎหมายอะไรแบบไหน คิดว่าเป็นรายละเอียดที่จะต้องคุยกันในเวลาที่มากกว่านี้ นอกจากนี้ การกำกับดูแลสื่อจะต้องมีการปฏิรูปอยู่แล้ว ส่วนจะปฏิรูปในรูปแบบไหนก็จะต้องดูรายละเอียดว่าจะต้องรับปรับแก้กฎหมายแบบไหนอย่างไร และทำอย่างไรให้มีสภาพบังคับ นี่คือปัญหาที่เป็นมาตั้งนานแล้ว

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้พยายามโทรติดต่อเพื่อสัมภาษณ์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยเบอร์โทรสำนักงาน มีการระงับใช้ชั่วคราว แต่เมื่อโทรไปยังเบอร์บรรณาธิการ ก็ไม่รับสายแต่อย่างใด ส่วนหนังสือพิมพ์ดังกล่าว เป็นฉบับของสัปดาห์ก่อน

จากการตรวจสอบ พบว่า หนังสือพิมพ์ ‘ฅนเมืองเหนือ’ เป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น จ.ลำปาง โดยเปิดดำเนินการมาแล้วกว่า 20 ปี ซึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวได้วางขายเป็นรายสัปดาห์ โดยมียอดขายประมาณ​ 8 พันเล่ม ซึ่งนับว่ามากที่สุดใน จ.ลำปาง เมื่อเทียบกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับอื่นๆ